“คุณรู้ไหมว่าดาว 3 ดวงเนี่ยนะ มันไม่สามารถที่จะโคจรมาเจอกันได้หรอก แต่อย่างน้อยมันส่องแสงหากันได้ เนี่ยผมว่าบางทีมันก็เพียงพอแล้วนะ” เป็น 1 ในประโยคคมๆ เท่ๆ ในภาพยนตร์เรื่อง “โปสการ์ดไม่มี..ที่มา” หรือ “Postcard From Nowhere” ภาพยนตร์แนวโรแมนติค ดราม่า ที่ดูแล้วแบบ …เฮ้ย โคตรอินเลยหวะ
แต่หากท่านไปยืนอ่านเรื่องย่ออย่างเป็นทางการที่ติดอยู่หน้าโรง (ผมไปดูที่ SF) ท่านอาจจะคิดว่าหนังเรื่องนี้ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไรเพราะเรื่องย่อที่ติดไว้นี่ใช้ภาษาที่ดูเป็นปริศนาอักษรไขว้มากไปหน่อย คงกะให้คนเข้าไปค้นหาต่อในโรง แต่กลายเป็นอ่านแล้วดูเหมือนหนังไม่สนุก เลยไม่เข้าไปดูซะงั้นเลย (อ้าว นี่ตรูเผลอ ไปรีวิว เรื่องย่อหน้าโรงเขาเลยเหรอวะเนี่ย 555) ทั้งๆ ที่เข้าไปดูจริงแล้วเนื้อเรื่องถือว่าน่าสนใจมาก
เรื่องของเรื่องเริ่มจากชายหญิงคู่หนึ่งคือ “เขต” (รับบทโดย อ้น สราวุธ) กับ “กานดา” (รับบทโดย จุ้มจิ้ม วรนันท์) ซึ่งรักกันมากและยาวนานถึง 7 ปี (ตามอาถรรพ์เลข 7 เป๊ะๆ) สองคนนี้เหมาะสมกันทุกอย่างหนุ่มหล่อสาวสวยหน้าที่การงานดีทั้งคู่ แต่แล้วก็เกิดจุดหักเหในชีวิต เพราะ “เขต” พบว่าตัวเองเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงและจะตายในไม่ช้า แต่ก็ยังอยากใช้เวลาดีๆ ส่วนที่เหลือกับ “กานดา” จึงปิดเรื่องนี้ไว้ แล้วชวนเธอไปเที่ยวพักผ่อน แต่ท้ายสุดไม่รอด “เขต” ตายจ้า.. แต่ก่อนตายเขียนเขาได้เขียนโปสการ์ดทิ้งไว้ให้กานดา ประมาณว่า ถ้าเขาไม่อยู่แล้วก็ให้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนที่ดูแลเธอได้ดี
แล้วเรื่องมันก็ผูกโยงไปยังพระเอกอีกคนนั่นคือ “สายลม” (รับบทโดย ลีโอ พุฒ) นายคนนี้ทำร้านกาแฟและมีงานอดิเรกคือถ่ายรูป และโดยเอารูปเหล่านั้นมาทำเป็นโปสการ์ดพร้อมเขียนคำคมๆไว้ขายในร้าน (แต่ขายแบบไม่เอาตังนะ คือขายโดนขอแลกกับการถ่ายรูปคนที่ซื้อโปสการ์ดไป(อินดี้ โคดๆ) และไอ้โปสการ์ดที่ เขต แอบเขียนให้ กานดา ก็เอามาจากร้านนี้ล่ะ โดย “สายลม” ได้แอบถ่ายรูป “เขต” ไว้ด้วย โอย เล่าเยอะเด๋วสปอยล์ เอาเป็นว่า ไปๆ มาๆ “กานดา” ได้กลับมาที่ร้านของ “สายลม” และความรู้สึกดีๆ ก็ได้ก่อตัวขึ้น ส่วนตอนจบจะลงท้ายอย่างไรแล้วไปเกี่ยวอะไรกับไอ้ดาว 3 ดวง ที่ผมพูดไว้ในตอนแรก ก็ให้ไปหาคำตอบกันเอาเองในโรง (คือเล่าเยอะไปล่ะ เสียตังไปดูกันเองบ้างเหอะ 555)
ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนที่อินกับ “โปสการ์ด” เพราะมีความหลังฝังใจเยอะม๊ากก 555 ก็เลยทำให้หนังเรื่องนี้โดนใจสุดๆ ต้องชมว่าเป็นความฉลาดในการหยิบ โปสการ์ดขึ้นมาเป็นตัวชูโรง (หากคุณเคยได้รับโปสการ์ดจากใครสักคนที่คุณรัก คุณจะเข้าใจ feeling ความโรแมนติคในตัวของโปสการ์ดเลยล่ะ อิอิ) โดยเฉพาะบทพูดเกี่ยวกับมุมมองชีวิต ผ่านโปสการ์ด ระหว่าง “สายลม” กับ “กานดา” โอยอันนี้ น่าร๊อกอ่ะ โรแม้นนนติ๊ค มั่กๆ คร้า
จุดบอดของหนังเรื่องนี้กลับเป็นเพื่อน 2 คนของ “สายลม” ซึ่งจริงๆ แล้วแทบไม่จำเป็นต้องมีบทของสองคนนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะเป็นฉากที่ตลกฝืด น่ารำคาญ จนทำลายบรรยากาศความโรแมนติคของหนังไปเลย อันนี้ผมให้คะแนนติดลบ และการดำเนินเรื่องดูขาดๆ เกินๆ โดยเฉพาะการลำดับภาพช่วงต้นๆ ทำได้ไม่ค่อยดีนัก บางส่วนไม่จำเป็นต้องมีก็ใส่มาซะงั้น เช่นฉากสาวประเภทสองนั่งคุยกับเพื่อน ในร้านของ“สายลม” หรือความไม่แนบเนียนสมจริงของการเล่าเรื่อง เช่น ฉากที่เพื่อนพระเอกแหกปากกันลั่น หรือเจ้าชู้ใส่ลูกค้าที่มานั่งในร้านกาแฟซึ่งโดยบรรยากาศของร้านกาแฟ จริงๆ แล้วต้องการความสงบมากและคงไม่มีใครไปทำทะลึ่งตึงตังใส่หน้าลูกค้าสาวๆ แบบนี้แน่ๆ (ฉากนี้ไม่ผ่านเลยสำหรับผม ถือว่า เป็นจุดบอดของหนัง ทั้งไม่ตลกและทำหนังเสียอรรถรส)
มาสรุปคะแนนกันดีกว่า ในส่วนของดารานำ ผมให้ 9/10 ผมชอบ “ลีโอ พุฒ” เขาเล่นได้เท่มากๆ ในบทหนุ่มอินดี้ เขาน่ารักนะ ผมหลงรักเลย (ขนาดเป็นผู้ชายด้วยกัน55) ส่วน “อ้น สราวุธ” ก็เล่นได้อารมณ์ดีในบท “เขต” ส่วนนางเอกน้อง “จุ้มจิ้ม วรนันท์” หน้าตาน่ารัก ฝีมือในการแสดงถือว่าใช้ได้ ในส่วนของภาพ และดนตรีประกอบ ผมให้ 8.5/10 การดำเนินเรื่องผมขอตัดคะแนนฉากตลกที่ไม่เข้าท่าในหลายๆ ฉากจนทำให้บางช่วงยืดเยื้อโดยไม่จำเป็น โดยส่วนนี้ขอให้แค่7.5/10 สรุปคะแนนหนังเรื่องนี้ให้ที่ 8/10 เป็นหนังที่น่าเสียดายอีกเรื่อง เพราะเนื้อเรื่องดี ดารานำดี วิวสวย เพลงเพราะ แต่ ไปเจอปัจจัยที่ผมบอกไว้ข้างต้นทำให้ดูดรอปลงไปหน่อยหนึ่ง แต่หากมองข้ามจุดบกพร่องเหล่านี้ไปได้ ก็อยากชวนให้ไปดูกันครับ ถือว่าเนื้อเรื่องน่าประทับใจ ผมชอบ แม้ตอนจบ จะจบกันแบบงงๆ ไปหน่อยก็ตาม (หรือผมไม่ get เองก็ไม่รู้นะ ไปลองดูเถิดครับ)
อาจารย์บอม