รีวิวหนัง ป้าแฮปปี้ , รีวิวหนัง ป้าแฮปปี้ she ท่าเยอะ, รีวิวหนัง PaHappy, M39, ป้าแฮปปี้ แพนเค้ก

ในสังคมที่รายล้อมไปด้วยสารพัดรูปแบบของความเครียดอย่างทุกวันนี้ ผมเห็นจะมีแต่หนังเรื่องนี้ที่สะท้อนความเครียดและวิธีการแก้ปัญหานี้ออกมา โดยทิ้งท้ายด้วยการฝากข้อคิดเรื่องความเชื่อและการมองโลกในแง่ดี ให้คนดูได้กลับไปคิดต่อที่บ้านด้วย ใช่แล้วครับ ผมกำลังพูดถึงหนังเรื่อง “ป้าแฮปปี้ She ท่าเยอะ” ซึ่งเป็นหนังเรื่องล่าสุดของค่าย M๓๙ ที่กำลังลงโรงฉายอยู่ในขณะนี้

หนังเรื่องนี้เล่าถึงชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง คือ “ปีสุข” (รับบทโดย แพนเค้ก เขมนิจ) ซึ่งเป็นคนทำงานกินเงินเดือนที่โดนภาวะเศรษฐกิจเล่นงานจนต้องตกงานแบบไม่ทันตั้งตัว นอกจากจะตกงานแล้วชีวิตยังเล่นงานเธอต่อด้วยการโดนสลัดรักจากชายหนุ่มที่เธอหลงรักเขาข้างเดียวมาอย่างยาวนาน แต่ความดราม่ายังไม่ยอมจบเพียงแค่นี้ เธอยังได้รับแจ้งจากหมอว่า เธอป่วยเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ และจะต้องตายภายในสองเดือน ท่ามกลางความเลวร้ายต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตเธอ ทัศนคติที่เป็นบวก และความเชื่อหรือศรัทธาอย่างแรงกล้า จะเปลี่ยนแปลงชีวิตเธอได้อย่างไร อันนี้ต้องขออนุญาตให้เข้าไปดูกันต่อเองในโรงฯ ว่าจะลงเอยในแบบไหนอย่างไร

จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ อยู่ที่นักแสดงอย่าง “เบน ชลาทิศ” ที่รับบทเป็น “กอล์ฟฟี่” ซึ่งเป็นเพื่อนของนางเอก พี่เบน เล่นเรื่องนี้ได้แบบเป็นธรรมชาติมาก ทั้งสารพัดท่าเต้น และคำพูดที่เสียดสีเหน็บแนมแบบน่ารัก ที่เรียกเสียงฮาได้เกือบตลอดทั้งเรื่อง ต้องถือว่าพี่เขาแจ้งเกิดในการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตได้อย่างเต็มภาคภูมิ

สำหรับนางเอกของเรื่องคือ “แพนเค้ก เขมนิจ” นั้น ต้องถือว่าในครั้งนี้เธอมาแบบโคตร จะ Surprise เพราะฉีกจากบทบาทแบบเดิมๆ ในมาดคุณหนู ที่คนดูอย่างเราๆ ท่านๆ เคยคุ้นหูคุ้นตาออกไปเสียอย่างไม่เหลือสภาพเดิม คราวนี้เธอมาในสภาพ หน้าสด ผมฟู ดูติงต๊อง (แม้หน้าจะสด แต่ยังสวยเป๊ะและน่ารักเหมือนเดิม) จนคนดูอย่างผม อดจะอุทานในใจไม่ได้ว่า “เฮ้ย แพนเค้ก เล่นบทแบบนี้ก็ได้เหมือนกันเหรอวะ” She ไม่ห่วงภาพลักษณ์เลยหรือเนี่ย? (คือบทป้าแฮปปี้ นี่ติงต๊องบ้าบอมาก) แม้จะดูไม่คุ้นตา จนถึงอาจจะขัดหูขัดตาสำหรับบางคน แต่ผมบอกเลยว่า เธอสอบผ่านในบทบาทนี้ และต้องยอมซูฮกว่า เธอคือนักแสดงที่มากความสามารถจริงๆ

ที่ผมรู้สึกตงิดๆ ใจกับหนังเรื่องนี้ มีอยู่นิดเดียวคือ หนังเหมือนดำเนินเรื่องไปไม่สุด และมีการหักมุมอารมณ์แบบไม่ค่อยจะลงตัวอยู่เป็นช่วงๆ เช่น กำลังเศร้าๆ ซึ้งๆ อยู่ดีๆ เอ้า กลายเป็นมีบทฮาโผล่ มาแทรก ไปซะล่ะ หรือบางทีกำลังขำๆ ฮาๆ อยู่ เอ้า ดึงเข้าดราม่า กลายเป็นทำให้ร้องไห้ แบบไม่ทันตั้งตัวไปซะดื้อๆ คือ จะว่าไปแล้วการดำเนินเรื่องแบบนี้ บางคนอาจรู้สึกสนุกเหมือนคนสร้างหนังกำลังต้องการเล่นกับอารมณ์คนดู แต่สำหรับผมกลับรู้สึกว่าทำให้หนังไปไม่สุดแบบที่มันควรจะเป็น

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนักแสดงนำนี่ผมไม่มีข้อกังขาใดๆ ถือว่าความสามารถผ่านฉลุยโดยเฉพาะเบน กับ แพนเค้ก เล่นได้สมราคา ผมให้ 9/10 ในส่วนของการดำเนินเรื่องแม้จะไหลลื่นไปได้เรื่อยๆตามสไตล์หนังไทย แต่อย่างที่บอกไว้ตอนต้นคือบางตอนเหมือนจะไปไม่สุดและเปลี่ยนอารมณ์เร็วจนตามไม่ค่อยจะทัน ส่วนนี้ผมให้ที่ 7/10 อีกส่วนที่ผมชอบคือ ดนตรี และท่าเต้น T26 ของ เบน ชลาทิศ อยากบอกว่าสนุกจนผมเผลอขยับเท้าเข้าสเต็ปตามไปกับเขาด้วย (เพลงจังหวะมันส์จนอยากลุกขึ้นเต้นกลางโรงหนังเลยทีเดียว 555) อย่างไรก็ตามถ้ามองในแง่เนื้อหาสาระหรือแนวคิดดีๆ ในหนังเรื่องนี้มีอยู่เพียบ จุดนี้ให้ 8.5/10 เรียกว่าดูจบมารับรองมีอะไรดีๆ ติดสมองกลับบ้านไปเป็นแรงบันดาลใจได้ชัวร์ สรุปภาพรวมหนัง “ป้าแฮปปี้ She ท่าเยอะ” ผมให้ที่ 8/10 หากอยากดูหนังที่ Feel Good ได้แรงบันดาลใจให้กับชีวิต มีฮามีขำกับทั้งคำพูดและท่าเต้นของ “เบน ขลาทิศ” รวมทั้งสัมผัสความกุ๊กกิ๊ก สดใสน่ารัก (แบบบ๊องๆ แบ๊วๆ) ของ “แพนเค้ก เขมนิจ” ในลุ๊คที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน แนะนำเลยว่าให้ไปดูเรื่องนี้รับรองว่า คุณจะได้ข้อคิดดีๆ ติดไม้ติดมือกลับไปบ้านอย่างแน่นอนครับ

อาจารย์บอม