รีวิวหนัง LION จนกว่าจะพบกัน

หากจะบอกว่า Google Earth คือพระเอกตัวจริง ของหนังเรื่องนี้ก็คงไม่ผิดนัก เพราะมันสร้างความมหัศจรรย์แบบที่สามารถทำให้คนที่พลัดที่นาคาที่อยู่จากบ้านเกิดในชนบทห่างไกลของอินเดีย ไปกว่า 20 ปี สามารถสืบหาและดั้นด้นกลับมายังหมู่บ้านที่ตนเองเคยอยู่ได้ ทั้งๆ ที่ตอนจากไปนั้นยังเด็กมากและจำอะไรแทบจะไม่ได้เลย

ภาพยนตร์เรื่อง ” LION จนกว่า จะพบกัน ” สร้างจากหนังสือขายดีติดอันดับ และเรื่องจริงที่เกิดขึ้นของ “ซารู” เด็กน้อยจากเมืองเล็กๆ ในชนบทที่ห่างไกลของอินเดีย ที่เกิดพลัดหลงกับพี่ชายและ เข้าไปเผลอหลับอยู่ในขบวนรถไฟซึ่งเดินทาง ไปยังเมืองกัลกัตตา ที่ห่างไกลจากบ้านของเขาไปเป็นพันกิโลเมตร ทำให้เขาต้องกลายเป็นเด็กเร่ร่อน ต้องเผชิญความยากลำบากต่างๆ ในการดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตรอด จนกระทั่ง ชีวิตพลิกผัน สามีภรรยาชาวออสเตรเลีย ได้รับเขาเป็นบุตรบุญธรรม และให้การศึกษาอย่างดีจนเขาเติบโตขึ้นเป็นหนุ่มใหญ่ มีการมีงานทำ แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงวนเวียนอยู่ในจิตใจของเขาก็คือ ภาพของแม่ และ พี่ชาย ที่บ้านเกิดซึ่งเขาจากมา แต่ปัญหาใหญ่ก็คือ เขาจำไม่ได้ว่าบ้านของเขานั้นยู่ส่วนไหนของประเทศอินเดีย

เขาตัดสินใจลาออกจากงาน และทุ่มเทเวลาในการค้นหาหมู่บ้านนั้น โดยใช้แผนที่ของกูเกิ้ล (Google Earth) เป็นเครื่องมือในการช่วยสืบค้น จนท้ายสุดเขาก็ค้นเจอและรีบเดินทางไปยังหมู่บ้านนั้นทันที ส่วนเขาจะได้พบพี่ชาย พบแม่ พบน้อง ของเขาหรือไม่ ขอเชิญท่านไปติดตามดูต่อได้ในโรงภาพยนตร์ แต่รับประกันว่างานนี้มีเสียน้ำตากันอย่างแน่นอน

จุดเด่นของ ” LION จนกว่าจะพบกัน ” คือ ภาพสวย มุมกล้องดี และการนำเสนอเรื่องราว ลื่นไหล กระชากอารมณ์คนดู ได้เป็นระยะๆ หนังยังสะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตของชาวอินเดีย โดยเฉพาะบรรยากาศที่สถานีรถไฟ ซึ่งเบียดเสียดและแออัดจนน่าตกใจ เพลงประกอบที่ออกแนวอินตระเดียก็ไพเราะ เร้าใจ อดขยับเท้าตามไปด้วยไม่ได้ (555) นักแสดงที่เล่นเป็น “ซารู” ตอนเด็ก แสดงได้ดีมาก เห็นแล้วสงสารเลย ส่วน “ซารู” ตอนโต (รับบทโดย เดฟ พาเทล) ส่งอารมณ์ออกทาง สีหน้าแววตา ได้ดี มาแบบจัดเต็ม ตลอดทั้งเรื่อง หนังได้สอดแทรกข้อคิดอะไรหลายๆ อย่างให้เราได้ขบคิดตามไปด้วย ทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันที่คนในครอบครัวมีต่อกันได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวของ “ซารู” ที่อินเดียหรือที่ออสเตรเลีย ต้องขอชมว่านำเสนอออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ผมให้คะแนน รีวิวหนัง LION จนกว่าจะพบกัน ที่ 9/10 ส่วนเหตุผลที่ทำไมหนังเรื่องนี้ ถึงตั้งชื่อว่า LION นั้น ขอให้ตามไปดูไปฟังคำเฉลยกันได้ในตอนท้ายของภาพยนตร์ สรุปดื้อๆ เลยว่า หากอยากเสียน้ำตา (เพราะความประทับใจ) แนะนำให้ไปดูเรื่องนี้ครับ รับรองไม่ผิดหวัง แน่นอน !!

อาจารย์บอม