เคยสงสัยไหมว่า “ความสุขคืออะไร” อะไรที่ทำให้คนเราไม่มีความสุข? คุณเคยนึกอยากจะลุกขึ้นแล้วออกวิ่งตามหาความสุขกันบ้างไหม? คำถามเหล่านี้อาจฟังดูตลกๆ แต่หากหยุดคิดให้ดีๆ คำถามเหล่านี้ล้วนมีความหมายกับชีวิตของคนเรา
ผมเกริ่นเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะหนังที่ผมจะนำมารีวิวในวันนี้ คือ “Hector and the Search for Happiness” หรือ ชื่อภาษาไทยว่า “เฮคเตอร์แย้มไว้ให้โลกยิ้ม” ซึ่งป็นภาพยนตร์ที่สร้างมาจากหนังสือที่ขายดีติดอันดับ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้จะให้คำตอบสำหรับคำถามข้างต้นนั้น โดยในเรื่อง พระเอกของเราเป็นจิตแพทย์นามว่า “Hector” ซึ่งวันๆ จะต้องนั่งฟังคนไข้หลากหลายรูปแบบที่ขาดความสุขในชีวิตระบายเรื่องราวต่างๆ ให้หมอฟัง แม้ว่าชีวิตส่วนตัวของจิตแพทย์คนนี้เอง จะมีระเบียบเรียบร้อยดี อีกทั้งมีแฟนทั้งสวย ทั้งเก่งคอยดูแล แต่คุณหมอเองก็ไม่ได้มีความสุขอะไรนัก จนกระทั่งถึงวันหนึ่ง คุณหมอก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับมาถามตัวเอง “อะไรคือความสุขในชีวิต” และจะหาความสุขนั้นได้จากไหน? เพื่อที่จะได้นำคำตอบนั้นกลับมารักษาคนไข้หรือแม้แต่ตัวของคุณหมอที่ขาดความสุขเหล่านั้นด้วย
เรื่องราวการผจญภัยและเดินทางไปยังประเทศต่างๆ เพื่อค้นหาความสุขของคุณหมอจึงได้เริ่มขึ้น เป็นการเดินทางเพื่อไปเก็บข้อมูลและถามไถ่ผู้คนในที่ต่างๆ ที่คุณหมอได้ประสบพบเจอว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้พวกเขาเหล่านั้นมีความสุขและอะไรคือสิ่งที่ทำให้พวกเขาไม่มีความสุข?
ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้คือเรื่องราวและผู้คนหลากหลายในแต่ละประเทศที่คุณหมอได้พบได้เจอ ไม่ว่าจะในประเทศจีนหรือทิเบต หรือ แม้กระทั่งแอฟริกา โดยแต่ละแห่งที่เขาได้ไปเยือน เขาได้จดข้อคิดดีๆ ที่เขาค้นพบลงในสมุดบันทึกของเขาด้วย ซึ่งบางนิยามก็ใช้ได้จริง บางนิยามก็ใช้ไม่ได้จริง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และเหตุการณ์ที่เขาเจอในเวลานั้นๆ
ในส่วนของวิธีการดำเนินเรื่อง ถือว่า ไหลลื่นลงตัว มีการสอดแทรกมุกขำๆ และข้อคิดเรื่องเกี่ยวกับความสุข ไว้เป็นระยะๆ เหมือนเชิญชวนให้คนดูได้คิดตามไปด้วย ซึ่งผมถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างมากของภาพยนตร์เรื่องนี้
ในส่วนของนักแสดงไม่ว่าจะเป็นพระเอกหรือนางเอก ล้วนเล่นได้สมบทบาท ดูเป็นธรรมชาติ นางเอกเรื่องนี้เคยเล่นหนังเรื่อง Gone Girl หรือ เล่นซ่อนหาย มาก่อนด้วยซึ่งถ้าคนที่เคยดูหนังเรื่องที่ว่านี้ มาก่อน คงรู้ว่า บทบาทที่เธอได้แสดงไว้นั้นเด็ดขาดแค่ไหน อีกอย่างที่ต้องชมคือ มุมกล้องใน ฉากที่เป็นวิวทิวทัศน์ของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะที่จีนและทิเบต นี่ถือว่า ทำได้ดีมาก นั่งดูแล้วเพลิดเพลินราวกับว่าเราได้ไปนั่งอยู่ในสถานที่นั้นจริงๆ นี่ผมยังไม่นับอีกสารพัดข้อคิดคำคมและเหตุการณ์ประทับใจต่างๆ ที่เรียกได้ทั้งน้ำตาและรอยยิ้ม อยู่ตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนจบนี่ห้ามพลาด ผมประทับใจมาก
ก่อนจะจบ ผมขอยกตัวอย่างคำคมในหนังเรื่องนี่ ที่ผมพอจะจดทันมาฝากท่านผู้อ่าน เพื่อจะได้เห็นภาพและอารมณ์ของหนังเรื่องนี้ เช่น “การเปรียบเทียบทำให้ความสุขสะดุดได้” “จิตใจเจ็บได้พอๆกับร่างกาย” “ความสุขคือการได้เป็นคนรวย หรือ เป็นคนที่มีความสำคัญ” “คนเรามองเห็นความสุขอยู่แต่ในอนาคต” “บางครั้งความสุขคือการรู้ให้น้อย” “สำคัญกว่าการเสาะหา คือการหลีกหนี”
“การหนีความทุกข์ไม่ใช่หนทางแห่งความสุข” “ความสุขคือการทำตามหัวใจเรียกร้อง” “ความกลัวกีดขวางความสุข” “การยังมีชีวิตอยู่คือความสุข” “การรับฟังคือการให้ความรัก”
“การหนีความทุกข์ไม่ใช่หนทางแห่งความสุข” “ความสุขคือการทำตามหัวใจเรียกร้อง” “ความกลัวกีดขวางความสุข” “การยังมีชีวิตอยู่คือความสุข” “การรับฟังคือการให้ความรัก”
สำหรับหนังเรื่องนี้ ผมให้ในส่วนของเนื้อหาและการดำเนินเรื่อง 9.5/10 ในส่วนของการถ่ายทำและมุมกล้อง 9/10 ดารานักแสดง 9.5/10 เพลงประกอบ 8.5/10 โดยภาพรวมของเรื่องนี้ผมให้ 9.5/10 เป็นหนังที่แนะนำเลยว่า “ต้องไปดู” ให้ได้ น่าเสียดายที่โรงเข้าฉายในประเทศไทยน้อยไปนิดหนึ่ง แต่รับรองว่าไปดูแล้วไม่มีคำว่าผิดหวัง กล้าพูดได้ว่า หนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังต่างประเทศที่ผมชอบมากที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิตเลยทีเดียว
อาจารย์บอม