หนังเข้าใหม่สัปดาห์นี้ตั้งใจจะไปดู “สโนว์เดน” แต่ระหว่างเดินไปตีตั๋ว ดันไปสะดุดตากับโปสเตอร์หนังเรื่อง The Girl On the Train เลยกลายเป็ได้เปลี่ยนเรื่องดูซะดื้อๆ งั้น เพราะผมชอบหนังเรื่อง Gone Girl กับ Train to Busan ดังนั้นเมื่อเห็นทั้ง Girl และ Train มารวมอยู่ในเรื่องเดียวกัน หนังเรื่องนี้คงสนุกมากแน่ ๆ (เกี่ยวกันไหมเนี่ย 555) และที่สำคัญเป็นหนังระทึกขวัญที่ซุกปมซ่อนเงื่อนแบบเดียวหนังโปรดของผมเรื่อง Gone Girl ซะด้วย เลยต้องจัดให้หนังใหม่อย่าง “สโนว์เดน และ หนังรถเมล์ ป๊าด 888 แรงทะลุนรก” รอคิวเอาไว้ดูทีหลังละกัน
สำหรับ The Girl On The Train สร้างจากสร้างจากสุดยอดนวนิยายเขย่าขวัญ ที่ขายดีเป็นอันดับ 1 ของนิวยอร์กไทม์ โดยได้ “เอมิลี บลันท์” เป็นนักแสดงนำ เนื้อเรื่องย่อๆ มีอยู่ว่า ราเชล (รับบทโดย เอมิลี บลันท์) ที่เศร้าโศกกับการหย่าร้าง และติดเหล้าอย่างหนัก เธอใช้ชีวิตประจำวันด้วยการเดินทางบนรถไฟไปๆ มาๆ แล้วจินตนาการถึงคู่รักที่สมบูรณ์แบบ ที่อาศัยอยู่บ้านหลังหนึ่งที่ขบวนรถไฟแล่นผ่าน จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้เห็นบางสิ่งบางอย่างที่ขัดใจกับจินตนาการที่เธอสร้างไว้ เธอจึงเข้าไปพัวพันกับเรื่องลึกลับซ่อนเงื่อน ปมชู้มรณะ โดยสิ่งที่เธอเห็น สิ่งที่เธอรับรู้ในวันนั้น จะทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
เนื้อหาของหนัง The Girl on the train ปมหลอน รางมรณะ นั้นถือว่าน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง เพราะเดาทางแทบไม่ออกเลยว่าเรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร และสิ่งที่เราเห็นก็อย่าเพิ่งไปไปเชื่อ มิน่าล่ะ ถึงได้เป็นนิยายเบสต์เซลเลอร์ ผมเทคะแนนให้ในส่วนของเนื้อหาน่าติดตามที่ 9/10 สำหรับนักแสดงนำอย่าง “เอมิลี บลันท์” แม้บทบาทจะไม่ได้ออกแนวสวย เก่ง อย่าง “โรซามันด์ ไพค์” ใน Gone Girl แต่เธอก็แสดงได้ดีกับบท “ราเชล” หญิงสาว ที่ชีวิตมีปัญหามากมายเหลือเกิน และยังถลำลึกไปกับจินตนาการที่สร้างขึ้นมาเองอีก จนไม่รู้ว่าเรื่องไหนจริง เรื่องไหนไม่จริง ผมให้ในส่วนของนักแสดงที่ 9/10 สำหรับการดำเนินเรื่องและการตัดต่อหนัง ค่อนข้างอืดไปหน่อย การตัดภาพไปมาระหว่างอดีต ปัจจุบัน ไล่ตามช่วงเวลา และการปูเรื่องให้กับตัวละครในช่วงแรกก็ดูงงๆ แต่หากดูไปเรื่อยๆ ก็จะเข้าใจในการเล่าเรื่องได้ดีขึ้น ผมให้คะแนนในส่วนนี้ที่ 8/10 สรุปภาพรวมของหนังเรื่อง The Girl on the train ปมหลอน รางมรณะ ผมให้ที่ 8.5/10
สำหรับคอหนังแนว ตื่นเต้น เขย่าขวัญ ลึกลับซับซ้อน และยิ่งถ้าเคยชื่นชอบสไตล์หนังแบบ Gone Girl รับรองว่าท่านจะไม่ผิดหวังสำหรับ The Girl On The Train เพราะยิ่งดูยิ่งเหมือนได้ฝึกคิดตามไปด้วย ว่าเนื้อหาอันซับซ้อนซ่อนเงื่อนนี้ จะลงเอยอย่างไร เพราะเมื่อความจริงอาจกลายเป็นภาพลวงตา และภาพลวงตาอาจเป็นเรื่องจริง แบบที่คนดูอย่างเราก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน…..พูดไปพูดมา เดี๋ยวจะไม่สนุก ขอเชิญทุกท่านตามไปลุ้นต่อกันในโรงภาพยนตร์ดีกว่านะครับ
(ทีมงาน) อาจารย์บอม