ขณะที่ไปดู Fantastic Four มาเมื่อวันก่อน เผอิญเหลือบไปเห็นใบปิดหนังเรื่อง Dark Places และไปสะดุดตากับคำว่า “Gone Girl” ที่เขียนไว้ในใบปิดหนังเรื่องนี้ แล้วยังเห็นชื่อนักแสดงนำ ซึ่งเป็นดาราคนโปรดของผมอย่าง “ชาร์ลิซ เธอรอน” อีก ผมเลยไม่ลังเลล่ะ รีบตรวจสอบรอบหนังแล้วตีตั๋วเข้าชม “Dark Places” โดยไม่ลังเลเลย
ภาพยนตร์เรื่องนี้หยิบเอานิยายแนวลึกลับขายดีของ “กิลเลี่ยน ฟลินท์” มาสร้างเป็นหนังโดยเป็นเรื่องราวการฆาตกรรมยกครอบครัวเดย์ โดยมี “ลิปปี้” น้องสาวคนสุดท้อง เป็นเพียงผู้เดียวที่รอดตายจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ด้วยความเป็นเด็กและกำลังตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว เธอจึงให้การกับตำรวจและศาลว่า ผู้ที่เป็นฆาตกรคือพี่ชายของเธอ หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น “ลิปปี้” ก็ใช้ชีวิตอยู่เพียงผู้เดียว ชนิดที่เรียกว่า “อยู่ไปวันวัน” โดยอาศัยเงินจากกองทุนเลี้ยงชีพเธอไว้ หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปถึง 28 ปี เธอกลับจะต้องไปเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ในอดีตนั้นอีกครั้ง เพียงเพื่อแลกกับเงินที่จะนำมาใช้จ่าย เธอได้ไปเข้าร่วมกลุ่มนักสืบ “The Kill Club” กลุ่มซึ่งไม่เชื่อว่าพี่ชายของเธอจะเป็นฆาตกรตัวจริง
ในส่วนของบทภาพยนตร์นั้น ถือว่าทำได้ดี มีเนื้อหาชวนให้ติดตาม ค้นหาความจริง คนดูอย่างเราๆ ท่านๆ ต้องคอยเดาคอยลุ้นไปกับเหตุการณ์ต่างๆ อยู่เกือบตลอดทั้งเรื่อง ถือว่า ไม่ผิดหวังเลยกับผลงานจากปลายปากกาของ “กิลเลี่ยน ฟลินท์” หลังจากที่ฝากชื่อเสียงโด่งดังมาแล้วกับงานเขียนเรื่อง “Gone Girl” สำหรับคะแนนในส่วนของบทภาพยนตร์นี้ ผมให้ 9.5/10 ในส่วนของนักแสดงนำ Dark Places ได้ขนนักแสดงนำจาก Mad Max : The Fury Road มาครบทั้ง “ชาร์ลิซ เธอรอน” และ “นิโคลัส ฮอลท์” รวมทั้งนักแสดงดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง “โคลอี้ เกรซ มอเร็ตซ์” ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ชาร์ลิซ เธอรอน” แสดงได้สมบทบาท แบบไม่ห่วงสวยหรือห่วงภาพลักษณ์เลย ระยะหลังๆ มานี่ผมยังไม่เคยเห็นเธอได้แสดงบทบาที่ดูสวยๆ บ้างเลย สำหรับในส่วนของนักแสดงนำ นี้ผมให้ที่ 9.5/10 และคะแนนรวมของภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ 9.5/10 เป็นหนังที่ดูได้ทุกเพศวัย
ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนหนังระทึกขวัญก็ไปดูกันได้ เพราะไม่ได้น่ากลัวอะไรอย่างที่เห็นในภาพยนตร์ตัวอย่าง แต่เป็นภาพยนตร์ที่ทำให้เราได้คิดวิเคราะห์ตาม ว่าเหตุการณ์ฆาตกรรมในครั้งนั้นแท้จริงแล้วใครคือฆาตกร โดยเฉพาะแฟนนิยายของ “กิลเลี่ยน ฟลินท์” ถ้าได้ไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ผมมั่นใจว่าก็คงจะ “ฟิน” แบบ “ฟลินท์ ๆ” เหมือนชื่อผู้แต่งอย่างแน่นอนครับ
ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนหนังระทึกขวัญก็ไปดูกันได้ เพราะไม่ได้น่ากลัวอะไรอย่างที่เห็นในภาพยนตร์ตัวอย่าง แต่เป็นภาพยนตร์ที่ทำให้เราได้คิดวิเคราะห์ตาม ว่าเหตุการณ์ฆาตกรรมในครั้งนั้นแท้จริงแล้วใครคือฆาตกร โดยเฉพาะแฟนนิยายของ “กิลเลี่ยน ฟลินท์” ถ้าได้ไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ผมมั่นใจว่าก็คงจะ “ฟิน” แบบ “ฟลินท์ ๆ” เหมือนชื่อผู้แต่งอย่างแน่นอนครับ
(ทีมงาน) อาจารย์บอม