คุณเชื่อมั่นในพลังของความรักหรือเปล่า? ? ผมเชื่อนะ โดยเฉพาะหลังจากดูหนังเรื่อง Love and Mercy หรือ “คนคลั่งฝัน เพลงลั่นโลก” จบลง หนังเรื่องนี้บอกเล่าถึงเรื่องราวชีวิตของ “ไบรอัน วิลสัน” นักร้อง นักแต่งเพลงและหัวหน้าวง “Beach Boy” ที่โด่งดังมากๆ ในอดีต “ไบรอัน” เป็นศิลปินที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสามารถ และอัลบั้ม “Pet Sounds” ของเขา ได้รับการยกย่องว่าเป็นอัลบั้มเพลงที่ดีที่สุดตลอดกาลด้วย
ภาพยนตร์เริ่มเล่าเรื่องโดยย้อนกลับไปในยุคที่วง Beach Boy และ “ไบรอัน วิลสัน” กำลังมีชื่อเสียงแบบสุดๆ โดยแสดงให้เห็นมุมต่างๆ ทั้งด้านมืดและด้านสว่างในขณะที่เขากำลังมีชื่อเสียง จนดำเนินมาถึงจุดที่เขามีอาการป่วยทางจิต เนื่องจากปมที่สะสมมาตั้งแต่เขายังเด็ก อาการป่วยแบบซึมเศร้าขนาดหนักทำให้เขาต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างเข้มงวดของนักจิตบำบัดอย่าง ดร.ยูจีน (รับบทโดย พอล จิแมทติ) แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้อาการป่วยของเขาดีขึ้นเลย
แต่ชีวิตของ “ไบรอัน วิลสัน” ซึ่งล่วงเข้าสู่วัยกลางคนและป่วยทางจิต กลับเปลี่ยนไป เมื่อได้เจอกับ “เมรินดา เลทเบทเทอร์” (รับบทโดย อลิซาเบธ แบงค์) ด้วยความรักและความหวังดีของผู้หญิงคนนี้ ทำให้ “ไบรอัน” ได้มีชีวิตใหม่ และกลับมาสร้างผลงานเพลงสุดอัจฉริยะของเขาได้อีกครั้ง
เสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ นอกจากเนื้อเรื่องที่สร้างจากเรื่องจริงแล้ว การวางตัวนักแสดงที่รับบทเป็น “ไบรอัน วิลสัน” ทั้งช่วงวัยหนุ่ม (รับบทโดย พอล ดาโน) และวัยกลางคน (รับบทโดย จอห์น คูแซค) ก็ทำได้ดีมาก ทั้งมุมกล้องและการเล่าเรื่องล้วนทำได้อย่างน่าสนใจ แม้ว่าอาจจะต้องใช้สมาธิในการดูนิดหนึ่ง สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับภาพยนตร์แนวนี้ แต่ก็ไม่ยากถึงขั้นต้องปีนบันไดดู
อีกสิ่งที่ประทับใจคือ “ดนตรีและเพลง” นอกจากจะมีความไพเราะแล้วยังทำให้เราได้รู้ได้เข้าใจถึงเบื้องหลังการทำงานดนตรีว่ายากเย็นแสนเข็ญขนาดไหน กว่าจะสร้างเพลงเพราะๆ ออกมาให้เราได้ฟังได้สักเพลง
มาดูคะแนนของหนังเรื่องนี้กันดีกว่า ในส่วนของนักแสดงนำผมให้ที่ 9.5/10 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “จอห์น คูแซค” ที่แสดงเป็น “ไบรอัน” ในช่วงวัยกลางคน ทั้งสีหน้า แววตา ท่าทาง ของเขา ถือว่าจัดเต็ม มาครบ ทำได้สมบทบาท รวมทั้ง “อลิซาเบธ แบงค์” ที่แสดงเป็น “เมรินดา” เธอเล่นได้เป็นธรรมชาติมาก โดยเฉพาะ “รอยยิ้ม” ของเธอ ดูสดใส จริงใจ เธอยิ้มทีไรใจผมแทบละลายทุกที ในส่วนของการดำเนินเรื่อง แม้อาจจะดูยากไปนิดสำหรับคนที่ไม่คุ้น แต่ถือว่าทำได้ดี คะแนนในส่วนนี้ผมให้ 8.5/10 ในส่วนของดนตรีประกอบ ผมให้ที่ 9.5/10 ด้วยเหตุที่หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับศิลปินเพลง ดังนั้น เพลงประกอบในหนังเรื่องนี้ย่อมจัดเต็มแน่นอน (แต่ก็ไม่ถึงขนาดเยอะจนกลายเป็นละครเพลง) ในส่วนของข้อคิดที่ได้จากหนังเรื่องนี้ ผมให้ “10/10” เพราะหนังเรื่องนี้ทำให้เราได้เห็นถึงพลังแห่ง “ความรักและความหวังดี” ว่ายิ่งใหญ่มากขนาด ที่สามารถเยียวยาคนป่วยทางจิต นั่งซึมเศร้าแบบหมดสภาพมานานหลายปี ให้กลับมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง จนสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ยิ่งใหญ่ให้กับโลกได้
สรุปหนังเรื่องนี้ผมให้คะแนนรวมที่ 9.5/10 ท่านที่ชอบหนังแนวชีวประวัติ และต้องการได้ข้อคิดดีๆ กลับบ้านไปด้วย ท่านไม่ควรพลาดหนังเรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวง และที่สำคัญต้องดูให้จบ จนถึงช่วง End Credit อย่าเพิ่งรีบลุกออกจากโรงก่อนนะครับ ผมมั่นใจว่าท่านต้อง “หลั่งน้ำตา” ให้กับเพลงและฉากสุดท้ายที่อยู่ในช่วง End Credit อย่างแน่นอน ครับ
อาจารย์บอม
ปล. ความคิดเห็นและคะแนนที่ให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมล้วนๆ
ท่านผู้อ่านมีสิทธิ์โดยชอบธรรมที่จะเห็นด้วยหรือเห็นต่างออกไป
ผมขอขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านรีวิวครับ J
ท่านผู้อ่านมีสิทธิ์โดยชอบธรรมที่จะเห็นด้วยหรือเห็นต่างออกไป
ผมขอขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านรีวิวครับ J