หลายเช้ามาแล้วที่ผมได้เฝ้ามองหาต้นตอของเสียงแหลมๆ เล็กๆ ที่ดังเป็นจังหวะรัวๆ บริเวณหน้าต่างใกล้กับห้องนอนของผม มาเช้าวันนี้เพิ่งจะได้เจอตัวต้นเสียงอย่างจังๆ มันคือนกตัวจิ๋ว สีน้ำตาลอ่อน ตัวโตกว่านิ้วหัวแม่มือของผมหน่อยเดียว แต่ทุกครั้งที่มันส่งเสียงร้องออกมา กลับดังก้องกังวาน เพราะจับใจและมีพลังอย่างน่าประหลาด น่าทึ่งจริงๆ พอเห็นนก ผมเลยนึกถึงคำศัพท์เกี่ยวกับนก ขึ้นมาได้ เริ่มที่
Bird (อ่านว่า เบิร์ด) แปลว่า “นก”
คำนี้เป็นคำนามแปลว่า “นก” หากใช้ในวงการแบดมินตัน “Bird” จะหมายถึง “ลูกแบดที่ทำจากขนไก่” พอพูดถึงคำว่า “Bird” ผมนึกถึงคำศัพท์ที่คล้ายๆ กันอีกคำ นั่นคือ
Birth (อ่านว่า เบิร์ธ) แปลว่า “การเกิด”
คำนี้เป็น คำนาม แปลว่า “การเกิด การคลอดลูก” ถ้าใช้ในรูปของกริยา จะใช้ คำว่า “ give birth to” ซึ่งจะมีความหมาย ว่า “คลอด หรือให้กำเนิด” ถ้าเป็นวันเกิดเราจะใช้คำว่า “Birthday” เหมือนที่เรามักได้ยินกันบ่อยๆ ว่า Happy Birthday ซึ่งแปลว่า “สุขสันต์วันเกิด” นั่นเอง
ความน่าสนใจอยู่ตรง ทั้ง Bird (นก) และ Birth (การเกิด) ออกเสียงใกล้เคียงกันมาก แตกต่างแค่เสียงคำลงท้ายนิดเดียวเท่านั้น โดย Bird จะเป็นเสียง d ขณะที่ Birth จะเป็นเสียง th พูดถึงการออกเสียง d ในภาษาอังกฤษ ยังไม่ยากเท่าการออกเสียง th เพราะการออกเสียง th นี่ต้องอธิบายพร้อมแสดงท่าประกอบให้ดูด้วย แต่ลองฝึกดูก็ได้นะครับ เสียง th เอาฟันหน้าทั้งล่างบน กัดลิ้นไว้เบาๆ (ให้ลิ้นอยู่ตรงกลางระหว่างฟัน) แล้วจึงปล่อยเสียง “เธ่อะ” ออกมานั่นล่ะครับ วิธีการออกเสียง th ลองดูนะครับ
อาจารย์บอม