กินอย่างไร ไม่ให้เพลีย| ถั่งเช่าเซน มาแว้ว

ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ คงเป็นอมตะสุภาษิต โดยเฉพาะในยุคนี้ ยุคที่เมื่อป่วยไข้แล้วเห็นค่าใช้จ่าย ค่าหมอค่ายา ค่าโรงพยาบาล แล้วอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอดไป มากกว่าอยากจะหายเพื่อลุกขึ้นมาจ่ายบิลค่ารักษาพยาบาลที่เป็นจำนวนเงินมหาศาล

ผมนี่มีคติประจำใจอยู่ประการหนึ่งคือ ต้องพยายามใช้ชีวิตแบบ Self Service คือ พยายามอย่างยิ่งในการดูแลตัวเองให้ดี อย่าให้ป่วยไข้ ล้มหมอนนอนเสื่อจนถึงขั้นได้ย้ายเข้าไปนอนในโรงพยาบาลอันขาด เพราะ นอกจากจะเสียงานเสียการแล้ว ยังจะเสียเงิน อีกด้วย ซึ่งเรื่องหลังนี่ถือเรื่องใหญ่สำหรับผมเลยทีเดียว 555

ผมมีเคล็ดลับง่ายๆ ในการดูแลตัวเองแบบ Self Service คือ หมั่นคอยสังเกตอาการผิดปกติในร่างกายตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพราะก่อนจะป่วยมากๆ ร่างกายของคนเรามักจะมีสัญญาณเล็กๆ เตือนให้รู้ก่อนเสมอ เช่น อาจรู้สึกระคายคอ หรือ รู้สึกปวดหัว หรือตัวรุมๆ เหมือนจะมีไข้ เพียงแต่บางครั้งเราไม่ใส่ใจ หรือ อาจมองข้ามไป สำหรับผมหากเกิดอาการแบบนี้ ผมจะใช้สมุนไพรทานดักทางเอาไว้ก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็นฟ้าทะลายโจร หรือ วิตามินซี

ผมมีความเชื่อว่า แพทย์ที่ดีที่สุดคือร่างกายของเราเองนี่ล่ะครับ ร่างกายของเราเหมือนมีกลไลอัตโนมัติที่รู้หมดว่าเราเจ็บป่วย อะไร ตรงไหน และจะต้องซ่อมแซมยังไง ดังนั้นจะเห็นว่า อาการป่วยหลายๆ อย่าง หากเรานอนพักเยอะๆ ก็หายเองได้เหมือนกันโดยไม่ต้องกินยา เพราะร่างกายใช้ช่วงเวลาที่ได้พักผ่อนไปทำการซ่อมแซมและรักษาอาการป่วยของตัวเอง

หากจะว่ากันไปแล้วรอบๆ กายเราล้วนแต่มีเชื้อโรคที่พร้อมจะบุกเข้ามาโจมตีอยู่เสมอ แต่ที่เรายังไม่ป่วย นั่นเพราะร่างกายเรายังมีภูมิต้านทานหรือทหารยามที่เข้มแข็งปกป้องอยู่ ทำให้ศัตรูหรือเชื้อโรคไม่สามารถทะลุทะลวงบุกเข้ามาทำให้เราป่วยได้ ผมจึงเชื่อในเรื่องของการออกกำลังกาย ควบคู่ไปกับ ทานอาหารดีๆ รวมทั้งการใช้สมุนไพรหรืออาหารเสริมสุขภาพ ซึ่งเป็นเหมือนปัจจัยในการเพิ่มประสิทธิภาพ หรือ เพิ่มพลังให้กับทหารหรือภูมิต้านทานโรคในร่างกายของเรา หากทหารของเราแข็งแรง เชื้อโรคหน้าไหนก็คงบุกเข้ามาทำให้เราป่วยไม่ได้ เพราะต้องเจอทหารออกอาวุธเพื่อสกัดกั้นหรือทำลายเชื้อโรคชนิดนั้นๆ แบบถอนรากถอนโคนทันที (เปรียบเทียบโหดไปเปล่าเนี่ย 555)

ทีนี้ในบรรดาสมุนไพรหรืออาหารเสริมทั้งหลายแหล่ ที่ผมเคยเกิน ผมก็ไม่ใช่ว่าจะกินซี้ซั้ว แต่ผมมีวิธีทดสอบก่อนง่ายๆ คือถ้ากินแล้วมีอาการข้างเคียง ปวดหัวตัวร้อน ท้องเสีย ปวดหลังปวดไหล่ เป็นผื่นคัน ฯลฯ ผมก็จะหยุดกินทันที แต่มีอยู่ตัวหนึ่งที่ระยะหลังๆ ผมเห็นคนพูดถึงกันบ่อยๆ ผมเลยลองไปหามาลองกินดูบ้าง มันคือ “ถั่งเช่า” ซึ่งเป็นยอดสมุนไพรจีนที่เขาร่ำลือกันว่ายอดกว่าสมุนไพรใดๆ ในแง่ของการบำรุงสุขภาพและง่ายต่อการกิน (อันนี้สำคัญมากเพราะผมเดินทางบ่อย) ผมจึงเลือกกินแบบสำเร็จรูป และ ผมลองกิน ถั่งเช่า ยี่ห้อเซน ( Zen Cordyceps) โดยผมใช้หลักการง่ายๆ คือพลิกซ้ายพลิกขวาดูข้างกล่องข้างขวดแล้วเห็นมีครบทั้ง อย. , ฮาลาล , GMP และสารพัดตรารับรองคุณภาพมาตรฐานการผลิต แต่เพื่อความชัวร์ตามประสาคนโซเชียล ผมเลยแอบแวบเข้าไปดูใน แฟนเพจ ของเขาด้วย โอว..แม่เจ้า เพิ่งรู้ว่าถั่งเช่า ยี่ห้อเซน นี่เป็นผลมาจากการวิจัยร่วมกันกับคณะเภสัช ของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง และยังกวาดมาสารพัดรางวัลจากหน่วยงานต่างๆ อีกด้วย เออ …แบบนี้กินแล้วค่อยอุ่นใจหน่อย คิดไม่ผิดที่เลือกลองกับถั่งเช่ายี่ห้อนี้

สรรพคุณหลักๆ ของถั่งเช่าโดยทั่วไปที่ผมไปค้นมา คือ ช่วยในเรื่องการไหลเวียนของออกซิเจนให้ดีขึ้น ช่วยการเผาผลาญ ต้านอนุมูลอิสระ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน แต่ไอ้ผมก็เป็นประเภทเชื่อคนยากไง เลยลองไปสอยมากินดูก่อน แบบไม่ต้องรับรู้อะไรทั้งสิ้น นั่นคือเขาให้กินเวลาไหน อย่างไรก็ไม่ได้สนใจนะ แต่เลือกกินตอนก่อนเข้านอนนี่ล่ะ เพราะกินเวลาอื่น ผมมักจะลืม (555)

เม็ดแรกในคืนแรก ผ่านไป ก็ อืม…คือ เฉยๆ นะ เม็ดที่สองในคืนสองผ่านไป ก็ยังเฉยอยู่ พอคืนที่สาม พอดีเป็นคืนที่ผมนอนดึกไง (คือพอดี งานเยอะ งานดูซีรี่ 555 ) นอนเกือบตี 1 แอบนึกในใจว่า พรุ่งนี้ตื่นเช้ามา ตรูเพลียแน่ๆ แต่พอรุ่งเช้านี่ผมแบบ เฮ้ย เซอร์ไพร์ส นะ เพราะตื่นมาไม่ยักกะเพลีย กลับสดชื่นซะงั้น ถ้าเป็นเมื่อก่อน คืนไหนผมนอนดึกเกินเที่ยงคืน แล้วตื่นมาแต่เช้า ไม่ใช่แค่เพลีย แต่จะฟึดๆ ฟัดๆ หายใจไม่ออกภูมิแพ้ถามหา พ่วงมาเป็นของแถมให้อีกด้วย แต่ครั้งนี้กลับ ไม่เป็นอะไรเลย คิดในใจว่า เออ.. “ถั่งเช่า เซน” นี่ก็เจ๋งดีนี่หว่า หลังจากนั้นผมก็ยังกินต่อเนื่องไปเรื่อยๆ โดยกินก่อนนอนคืนละ 1 เม็ด เหมือนเดิม แล้วลองสังเกตดู เห็นชัดเลยว่า ตื่นมาเช้าๆ นี่จะรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามากกว่าแต่ก่อน

ลืมเล่าให้ฟังไปว่า ผมนี่มีโรคประจำตัวอยู่อย่างหนึ่งคือ ถ้าเมื่อไรที่อากาศเปลี่ยน หรืออุณหภูมิเปลี่ยนแปลงแบบกระทันหัน แบบที่ฝนกำลังจะตกมิตกแหล่ หรือ มาจากที่ร้อนๆ แล้วเข้าห้องแอร์เย็นจัดๆ ในทันที จมูกผมจะกลายร่างเป็นเทอร์โมมิเตอร์เลยจ้า คือ จะเริ่มคัดจมูก หายใจหายคอไม่ค่อยสะดวก ตามการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิขึ้นมาทันที แต่หลังจากลองกิน ถั่งเช่า เซน ไปเกือบหนึ่งเดือน สังเกตเห็นได้ชัดว่า อาการหายใจไม่ค่อยออก หรือภูมิแพ้ โดยเฉพาะในเวลาที่นั่งห้องแอร์เย็นๆ หรือช่วงเวลาที่อากาศเปลี่ยนแปลงนั้น ลดลงมากจนเกือบจะหายเป็นปกติเลย คือ ไม่รู้สึก ฟึดๆ ฟัดๆ เหมือนเคย หายใจหายคอคล่องเป็นปกติ เรียกว่าโบกมือบ๊ายบายยาแก้แพ้เม็ดเล็กๆ เหลืองๆ ไปได้เลย ฟีลลิ่งแบบร่างกายรู้สึกแข็งแกร่งมาก ภูมิคุ้มกันเข้มแข็งกว่าเดิม โดยเฉพาะสีสันของ ถั่งเช่าเซน มาแนวพาสเทลคือสีชมพูอ่อนๆ และมาเป็นเม็ดรับประทานง่าย ซึ่งจากการค้นข้อมูลของผมพบว่า ถั่งเช่าเซน เขาใช้เนื้อถั่งเช่าแท้ๆ มาผสมลงไปในกระบวนการผลิตด้วยเลย ไม่ใช่สกัดเอาแต่หัวเชื้อมาใส่ ซึ่งรู้ๆ กันอยู่มา เนื้อถั่งเช่าแท้ๆ กิโลหนึ่งๆ ก็หลักแสนบาทเลยทีเดียว) ต้องขอชมว่า ผู้ผลิต “ถั่งเช่า เซน” นี่แบบใจถึงและจัดเต็มมากๆ

เล่ามาซะยืดยาว แค่อยากจะบอกว่า ผมกิน ถั่งเช่าเซน แล้วรู้สึกว่ามันเจ๋งดี เลยมารีวิวให้ฟัง ส่วนคนอื่นๆ กินแล้วจะเป็นอย่างผมหรือเปล่านั้น อันนี้ต้องบอกว่า ไม่ลองก็คงไม่รู้ แต่คนที่มีอาการหรือวิถีชีวิตแบบผม คือพวกนอนดึกตื่นเช้า แล้วประเภทจมูกเป็นเทอร์โมมิเตอร์ ฝนจะตกฟ้าจะร้องแล้วหายใจหายคอไม่ค่อยจะสะดวก ลอง ถั่งเช่า เซน ตัวนี้ดู ผมว่าเชื่อว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายของเราได้ อันนี้ไม่ได้มาโฆษณา แต่ขอท้าให้ลองเลย ถ้าได้เรื่องได้ราว หรือกินแล้วมีประสบการณ์อะไร ก็แชทมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ

สำหรับท่านที่ฟังผมเล่าแล้วแบบว่า เฮ้ย อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อความมั่นใจ … โน่นเลยครับ แวะเข้าไปในแฟนเพจของ ถั่งเช่าเซน ตามลิ๊งค์นี้ (https://www.facebook.com/zensiamclassic) ตะกี้ผมแว่บเข้าไปดูเห็น ข่าวล่าสุดในเพจบอกว่า ตอนนี้มีขนาดทดลอง (4 เม็ด) วางขายใน 7-11 แล้วด้วย ลองแวะไปสอยมากินดู แล้วอย่าลืมนะ มาเล่าให้ผมฟังกันบ้าง

อาจารย์บอม